ปูเลาปิอาปิ
ชื่อของเกาะ “ พีพี” มาจากคำภาษามาเลย์คือ "ปูเลาปิอาปิ" ซึ่งหมายถึง “เกาะแห่งไฟ” ซึ่งอ้างอิงถึง ป่าไม้โกงกาง ซึ่งเป็นที่รู้จักของนักเดินทางชาวมาเลย์ในชื่อของ “ ต้นไม้แห่งไฟ” ซึ่งพบได้มากตามริมผั่งเกาะพีพี นักเดินเรือผู้ชาญฉลาดในสมัยก่อนจะใช้ไม้พวกนี้มาทำเป็นเรือและหอก เพราะเป็นไม้ที่มีความคงทนแข็งแรงสูง ปัจจุบันต้นไม้พวกนี้กลับสร้างความสวยงามให้เกาะชวนให้ภูมิทัศน์ดูน่าหลงใหลยิ่งขึ้น

เกาะพีพีดอน
เกาะพีพีดอนเป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดในบรรดาเกาะใหญ่สองเกาะ เกาะพีพีดอนเป็นเหมือนเกาะสองเกาะที่ถูกแยกออกจากกันด้วยชายฝั่งเล็กๆ ดูน่าประทับใจ! ก่อนหน้านี้เคยเป็นสวรรค์ของนักเดินทางแบกกระเป๋า แต่ปัจจุบัน ผืนแผ่นดินระหว่างอ่าวทั้งสองอ่าวนี้กลับเรียงรายไปด้วยร้านอาหารภัตตาคารมากมาย ทั้งร้านค้าและบริษัททัวร์ ท่านสามารถเดินลัดเลาะเพื่อชมความสงบเงียบของเกาะได้ภายใน 15 นาที หรือจะเดินขึ้นไปอีกสัก 186 เมตรไปยังจุดชมวิวก็จะเห็นความงามของตัวเกาะจากมุมสูงได้ รับรองว่าดวงอาทิตย์ตกน้ำตรงนี้สวยไม้แพ้ที่อื่นทีเดียว!

เกาะพีพีเล
เกาะพีพีเลเป็นที่อาศัยของชาวบ้านและเป็นบริเวณของอุทยานแห่งชาติ เป็นอ่าวที่มีสภาพน้ำเหมาะต่อการ สน็อคลิ่งได้เป็นอย่างดี ที่นี่ท่านสามารถไปชมถ้ำพญานาคเพื่อค้นหาร่องรอยของประวัติศาสตร์ หรือจะเป็นอ่าวมาหยาที่น่าจะเป็นหาดที่สวยที่สุดของหมู่เกาะพีพี ที่นี่ท่านยังสามารถปีนขึ้นไปบนเขาและกระโดดลงดำน้ำได้ลึกถึง 20 เมตรกันเลยทีเดียว!

“เดอะบีช”
อ่าวมาหยาเคยถูกใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำหนังดังจากนวนิยายเรื่อง “The Beach” ที่มี Leonardo Di Caprio แสดงนำ อ่าวมาหยามีแค่เพียงกระท่อมเล็กๆ สองสามหลังที่สร้างขึ้นเป็นร้านขายเครื่องดื่ม แวดล้อมไว้ด้วยเชิงภูผาที่สูงถึง 100 เมตรทั้งสามด้านและน้ำทะเลสีฟ้าใส จึงทำให้ที่นี่เป็นสวรรค์ของบรรดานักสน็อคลิงทั้งหลาย!